1. มีพระเจ้าเที่ยงแท้แต่พระองค์เดียว ซึ่งทรงพระชนม์อยู่นิรันดร์ ปรากฏอยู่สามพระภาค คือพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ฉธบ.6:4 มธ.28:19)
    • 1.1 พระเยซูเป็นพระเจ้าซึ่งปรากฏเป็นพระบุตรในตรีเอกานุภาพ ปฏิสนธิโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์เกิดจากหญิงสาวพรหมจารี ทรงถูกตรึง ถูกฝังและเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่สาม ได้เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ และทุกวันนี้ทรงประทับอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์พระบิดา (ลก.1:35,1คร.15:3-4,มก.16:19)
    • 1.2 พระวิญญาณเป็นพระเจ้า ทรงสถิตกับผู้เชื่อผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งทรงยังทรงสัญญาที่จะประทานบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้แก่ผู้เชื่อทุกคน เพื่อรับฤทธิ์เดชและหมายสำคัญต่างๆ(กจ.1:8,2:4,38,39,10:46,19:6)
  2. พระคริสตธรรมคัมภีร์เป็นพระวจนะของพระเจ้าอันทรงฤทธิ์ไว้ซึ่งสิทธิอำนาจสูงสุด ซึ่งไม่มีข้อผิดพลาดเป็นหลักแห่งความเชื่อและประพฤติปฏิบัติสูงสุดของคริสเตียน (2 ทธ.3:16,2 ปต.1:21)
  3. พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามแบบพระฉายาของพระเจ้าให้เป็นชายและหญิง มนุษย์ทุกคนเป็น
    คนบาปและเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า แต่รอดพ้นบาปเป็นคนชอบธรรมได้โดยพระคุณ
    เพราะความเชื่อในพระเยซูคริสต์ (ปฐก.1:26-27, รม.3:23,อฟ.2:7-8)
  4. โลกและสรรพสิ่งในโลกนี้ ระบบสุริยะจักรวาล ถูกเนรมิตสร้างขึ้นโดยพระเจ้า (ปฐก.1)
  5. คริสตจักรคือกลุ่มชนที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ซึ่งพระองค์ทรงสถาปนาไว้ เพื่อกระทำให้พระมหาบัญชาของพระองค์สำเร็จ ผู้เชื่อทุกคนล้วนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในพระกายของพระคริสต์ (อฟ.1:22-23; 2:22)
  6. พิธีบัพติศมาในน้ำเป็นสัญลักษณ์ที่เล็งถึงการตาย การถูกฝังไว้ และการเป็นขึ้นมาใหม่กับพระคริสต์
    เป็นเครื่องหมายแสดงว่าผู้เชื่อได้เข้าส่วนร่วมกับพระองค์ กระทำโดยการจุ่มตัวลงในน้ำให้มิด
    ในพระนามของพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ (มธ.28:19,รม6:3-4)
  7. พิธีมหาสนิท เป็นสัญลักษณ์เพื่อระลึกถึงการทรงทุกข์ทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์ ผู้เชื่อที่จะเข้าร่วมพิธีนี้คือผู้เชื่อที่ได้รับบัพติศมาในน้ำแล้ว โดยใช้ขนมปังและน้ำองุ่นประกอบพิธี (กจ.2:41-42, 1 คร.11:23-26)
  8. ของประทานฝ่ายพระวิญญาณบริสุทธิ์มีไว้เพื่อเสริมสร้างคริสตจักรให้จำเริญและเพื่อการประกาศ
    เผยแผ่ข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์แก่มนุษยชาติ
    (1 คร.12:4-11,28-29,รม.12:6-8,อฟ.4:11-13,1 ปต.4:10-11)
  9. การเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์เพื่อรับคนที่เชื่อทั้งปวงไปกับพระองค์ ทั้งผู้ที่เป็นอยู่
    และตายไปแล้วไปอยู่กับพระองค์หลังจากนั้นพระองค์จะเสด็จมาปกครองโลกพันปีร่วมกับสิทธิชน
    ของพระองค์ (1 ธส.4:6-17,วว.20:4-6)
  10. ผู้ที่ตายทุกคนจะเป็นขึ้นมาจากความตายและเข้าสู่การพิพากษา (1 ธส.5:28-29,ฮบ.9:27)
  11. สวรรค์เป็นที่ประทับของพระเจ้าและเป็นที่อยู่ของผู้ชอบธรรมเป็นนิตย์ นรกเป็นสถานที่อันทุกข์ทรมาน
    ซึ่งผู้ที่ถูกพิพากษาลงโทษจะอยู่ที่นั่นเป็นนิตย์ (วว.20:14-15,มธ.25:46)